การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เปิดตัว" โครงการส่วนขยายของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 7+7 (Phuket Sandbox 7+7 Extension)" ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ในการเปิดประเทศไทยโดยไม่ต้องกักกันสำหรับนักเดินทางชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด- 19 แล้ว
For English Click: Phuket Sandbox 7+7 Extension
โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 7+7 คืออะไร?
"ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 7+7 (Phuket Sandbox 7+7)" หรือ "โครงการส่วนขยายของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 7+7 (Phuket Sandbox 7+7 Extension)" เป็นโครงการที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว โครงการนี้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่นๆเพิ่มเติมและเกาะต่างๆในจังหวัดสุราษฎร์ธานี, จังหวัดกระบี่ และจังหวัดพังงา หลังจากเข้าพัก 7 คืนในพื้นที่เหล่านี้ นักท่องเที่ยวจะได้รับอนุญาตให้เดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่นๆของประเทศไทย
โครงการนี้มีเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไปก่อนที่ประเทศไทยจะกลับมาเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างเต็มรูปแบบ
พื้นที่นำร่องที่เชื่อมโยงจังหวัดภูเก็ตในลักษณะ 7+7
ภายใต้โครงการส่วนขยาย Phuket Sandbox 7+7 ผู้เดินทางจะต้องอยู่ในภูเก็ตเป็นเวลาอย่างน้อย 7 คืน ก่อนจึงจะได้รับอนุญาตให้เดินทางไปยังพื้นที่นำร่องอื่นที่กำหนดเพื่อพักต่ออีก 7 คืน
UPDATE! ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2021 ระยะเวลากักตัวในประเทศไทยลดลงเหลือ 7 วัน ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องพักค้างคืนที่ภูเก็ต 7 คืนก่อนที่เดินทางไปยังพื้นที่นำร่องอื่น คุณสามารถเดินทางไปยังพื้นที่นำร่องอื่นได้โดยตรงจากสนามบินภูเก็ต!
ผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนแล้วจะได้รับอนุญาตให้เดินทางไปยังพื้นที่ต่อไปนี้
- สุราษฎร์ธานี ( เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) - สมุยพลัสแซนด์บ็อกซ์ (Samui Plus Sandbox)
- กระบี่ (เกาะพีพี, เกาะไหง, ไร่เลย์) - กระบี่แซนด์บ็อกซ์ (Krabi Sandbox)
- พังงา (เขาหลัก, เกาะยาวน้อย, เกาะยาวใหญ่) - พังงาแซนด์บ็อกซ์ (Phang Nga Sandbox)
เมื่อนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในพื้นที่นำร่องในจังหวัดกระบี่ พังงา หรือสุราษฎร์ธานีครบ 7 คืนแล้วในจังหวัดกระบี่ พังงา หรือสุราษฎร์ธานี สามารถเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่นๆในประเทศไทยได้
วิธีการเดินทางไปยังพื้นที่นำร่อง 7+7 ?
การเดินทางจากภูเก็ตไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่กำหนดในจังหวัดกระบี่ พังงา หรือสุราษฎร์ธานี สามารถเดินทางผ่านเส้นทางที่กำหนดและยานพาหนะที่ได้รับอนุมัติเท่านั้น
จากภูเก็ตไปเกาะสมุย เกาะพะงัน หรือเกาะเต่า
จากภูเก็ตไปเกาะพีพี เกาะไหง หรือไร่เลย์ ในกระบี่
- บริการเรือและเรือเฟอร์รี่ที่ได้รับการรับรองจาก SHA Plus จากท่าเรือที่ได้รับอนุมัติ - ท่าเรืออ่าวปอ, ท่าเรือฉลอง, ท่าเรือรัษฎา และท่าเรือวิศิษฐพันวา
จากภูเก็ตไปเขาหลักในพังงา
- บริการรับส่งด้วยรถยนต์ที่ได้รับการรับรองจาก SHA Plus จากภูเก็ตโดยตรงไปยังโรงแรมที่ได้รับการรับรองจาก SHA Plus
จากภูเก็ตไปเกาะยาวน้อยหรือเกาะยาวใหญ่ในจังหวัดพังงา
- บริการเรือและเรือข้ามฟากที่ได้รับการรับรองจาก SHA Plus จากท่าเรือที่ได้รับอนุญาต
- ท่าเรืออ่าวปอและอ่าวปอแกรนด์มารีน่า ไปยังท่าเรือช่องหลาดของเกาะยาวใหญ่
- ท่าเรือบ้านแหลมใหญ่ ไปยังท่าเรือมาเนาะของเกาะยาวน้อย
โรงแรมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 7+7
แม้ว่าจะไม่มีข้อกำหนดในการกักตัว แต่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังโครงการแซนด์บ็อกซ์ต้องพำนักในโรงแรมที่ได้รับเครื่องหมายรับรอง SHA+ (SHA Plus) เท่านั้น ซึ่งเครื่องหมาย SHA+ คือ สัญลักษณ์มาตรฐานท่องเที่ยวปลอดภัยด้านสุขอนามัย ออกโดยททท.และ สธ. เพื่อยืนยันมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขภาพที่มีมาตรฐานแก่ผู้ประกอบการที่ผ่านเกณฑ์ หลังการพำนักตามระยะเวลาที่กำหนดสามารถเดินทางไปยังจังหวัดอื่นในประเทศไทยได้
คุณต้องพักที่โรงแรม SHA Plus อย่างน้อย 7 คืน ในพื้นที่นำร่องในจังหวัด โดยรายชื่อโรงแรมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 7+7 ที่ได้รับการรับรองว่าเป็นโรงแรม SHA Plus ในจังหวัดต่างๆ ได้มีการรวบรวมไว้ในลิ้งค์ด้านล่างนี้ ⬇️
โรงแรมเหล่านี้สามารถจองผ่านเว็บไซต์จองที่พักออนไลน์ต่างๆ เช่น Booking.com, Agoda.com หรือจองกับโรงแรมโดยตรง และเมื่อทำการจ่ายเงินครบแล้ว เจ้าหน้าที่ของโรงแรมจะทำการป้อนข้อมูลการจองของแขกเข้าไปยังระบบ SHA Plus Booking Authentication System (SHABA) เพื่อจัดทำใบยืนยันการจองโรงแรม SHA Plus ที่มี SHABA ID และ QR Code อย่างเป็นทางการ จากนั้นผู้เข้าพักนำใบยืนยันการจองนี้ใช้ประกอบในการเดินทางเข้าประเทศต่อไป
เงื่อนไข/กฎเกณฑ์ของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 7+7
ประเทศไทยได้กำหนดเงื่อนไขสำหรับผู้เดินทางทุกคนที่เข้ามายังประเทศไทยในช่วงการระบาดของ COVID-19 โดยเงื่อนไขการเดินทางจากต่างประเทศเพื่อเข้าโครงการ “Sandbox 7+7 Extension” ดังนี้
- ลงทะเบียนสำหรับ Certificate of Entry (COE) ที่ออกโดยสถานเอกอัครราชทูตฯ /สถานกงสุลใหญ่ฯ
- ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสก่อนออกเดินทางไม่น้อยกว่า 14 วัน โดยวัคซีนที่ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือทางการไทย ผู้เดินทางต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ
- ซื้อกรมธรรม์ประกันสุขภาพวงเงินขั้นต่ำ 100,000 USD สำหรับค่ารักษาพยาบาลของ COVID-19 ระหว่างพำนักในประเทศไทย ซึ่งต้องซื้อประกันสุขภาพที่ตรงตามเกณฑ์การเข้ามาประเทศไทย
- จองห้องพักของโรงแรมที่ได้รับการอนุมัติ SHA Plus Hotels และชำระเงินเต็มจำนวน
- แสดงใบเสร็จยืนยันการจองการตรวจหาเชื้อโควิด 3 ครั้ง
- แสดงบัตรโดยสารเครื่องบินมายังภูเก็ต หากคุณวางแผนที่จะอยู่ในประเทศน้อยกว่า 7 วัน คุณจะต้องใช้ตั๋วเครื่องบินขากลับจากภูเก็ตไปยังประเทศอื่นด้วย
- แสดงผลการตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR ที่เป็นลบ (COVID-19-Free Health Certificate) ซึ่งได้รับการรับรองหรือออกให้ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
- เดินทางจากสนามบินภูเก็ตไปยังโรงแรมโดยยานพหานะที่ได้รับการรับรอง SHA+
- ในช่วง 7 วันแรก ผู้เดินทางต้องทำการทดสอบ RT-PCR 2 ครั้ง (การทดสอบครั้งแรกเมื่อเดินทางมาถึงสนามบิน การทดสอบครั้งที่สองในวันที่ 6-7)
- เข้าพักในจังหวัดกระบี่ พังงา หรือสุราษฎร์ธานีไม่น้อยกว่า 7 วันก่อนเดินทางไปจังหวัดอื่น
ประเทศที่สามารถเข้าร่วมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 7+7
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป ประเทศไทยต้อนรับนักเดินทางจากทุกประเทศทั่วโลกให้เข้าร่วมโครงการแซนด์บ็อกซ์ โดยไม่มีการแบ่งรายชื่อประเทศตามระดับความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโควิด-19
แผนภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จะเปิดสำหรับนักเดินทางที่บินมายังประเทศไทยจากประเทศเสี่ยงต่ำและปานกลางของไวรัส SAR-CoV-2 ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข และททท. รายชื่อประเทศที่มีสิทธิ์เข้าร่วมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์กำหนดโดยกระทรวงสาธารณสุขและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
การตรวจโควิด-19
ระหว่างการเข้าพักใน ผู้เดินทางทุกคนต้องเข้ารับการตรวจโควิด-19 และออกค่าใช้จ่ายเอง สำหรับจำนวนครั้งในการตรวจโควิด-19 (วิธี RT-PCR) กำหนดไว้ดังนี้
- ตรวจครั้งแรกเมื่อเดินทางมาถึงและรอผลการตรวจโควิด-19 ในที่พัก
- ตรวจครั้งที่สองในวันที่ 6 หรือ 7
การตรวจ COVID-19 ทั้งหมดจะต้องจองและชำระเงินล่วงหน้าผ่านระบบ PSAS และต้องส่งหลักฐานการชำระเงินเมื่อลงทะเบียน COE เพื่อขอใบรับรองในการเข้าประเทศ
ประกันโควิด COVID-19 สำหรับเดินทางเข้าประเทศไทย
คนไทยและชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางมายังประเทศไทยภายใต้เงื่อนไขของ"โครงการแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox Program)" จะต้องมีกรมธรรม์ประกันสุขภาพ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาลหรือหลักประกันอื่นใดซึ่งรวมถึงกรณีโรคโควิด - 19 ในจำนวนไม่น้อยกว่า 100,000 50,000 USD ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศไทย
คลิกด่านล่างเพื่อเปรียบเทียบราคาในเว็บไซต์ประกันภัยและซื้อออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ที่นี่ ⬇️
Join Our FACEBOOK Page!
อัพเดทข้อมูลการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ พร้อมข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการเปิดประเทศในช่วงของการระบาดโควิด-19
หมายเหตุ: มาตราการ/ข้อกำหนดการเดินทางเข้าประเทศไทยสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ขอให้ติดตามข่าวสารจากเว็บไซต์สถานทูต/สถานกงสุลเป็นระยะๆ