กุสินาราเป็นหนุึ่งในพุทธสถานที่มีความสำคัญที่สุดของชาวพุทธ เนื่องจากเป็นสถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งที่นี่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา กุสินาราเป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถานแห่งที่ 4 ใน 4 สังเวชนียสถาน
ความสำคัญ : เป็นสถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพานแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่ตั้ง : ตำบลมถากัวร์ อำเภอกุสินคร ในเขตจังหวัดเทวริยา รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับกุสินารา
กุสินารา (Kusinaga, Kushinagar) หรือ กุศินคร เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถานแห่งที่ 4 ใน 4 สังเวชนียสถานของชาวพุทธ เดิมในสมัยพุทธกาล เมืองกุสินารานั้นเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นมัลละ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสาลวโนทยาน หรือสวนป่าไม้สาละสถานที่ที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ป่าแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำหิรัญญวดี เป็นป่าไม้สาละร่มรื่น ซึ่งหลังการปรินิพพานของพระพุทธองค์แล้ว กษัตริย์แห่งมัลละก็ได้ประดิษฐานพระพุทธสรีระไว้ ณ เมืองกุสินาราเป็นเวลากว่า 7 วัน ก่อนที่จะประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ มกุฏพันธนเจดีย์ ในวันที่ 8 แห่งพุทธปรินิพพาน
การที่พระพุทธเจ้าทรงเลือกเมืองกุสินาราซึ่งเป็นเมืองเล็กเป็นสถานที่ปรินิพพานมีหลายสาเหตุ แต่สาเหตุสำคัญ คือ ทรงทราบดีว่าเมื่อพระองค์ปรินิพพานไปแล้ว พระสรีระและพระบรมสารีริกธาตุของพระองค์จักถูกแว่นแคว้นต่าง ๆ แย่งชิงไปทำการบูชา หากพระองค์ปรินิพพานในเมืองใหญ่ เมืองใหญ่เหล่านั้นอาจไม่แบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้เมืองเล็กๆ เช่น เมืองกุสินารา เป็นต้น ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นเพราะหลังพระพุทธองค์ปรินิพพาน เจ้าผู้ครองแคว้นต่าง ๆ ก็ได้ยกกองทัพหลวงของตนมาล้อมเมืองกุสินาราเพื่อจะแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุ แต่ด้วยความที่กุสินาราเป็นเมืองเล็ก จึงต้องยอมระงับศึกโดยแบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้ทุกเมืองโดยไม่ต้องเกิดสงคราม
อนุสรณ์สถาน ณ กุสินารา
มหาปรินิพพานสถูป ตั้งอยู่ด้านหลังของมหาปรินิพพานวิหาร เป็นสถูปแบบทรงโอคว่ำขนาดใหญ่ ซึ่งพระเจ้าอโศกมหาราชเป็นผู้สร้างและได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ เชื่อกันว่าเป็นที่บรรทมครั้งสุดท้ายและเป็นสถานที่พระพุทธองค์ปรินิพพาน ณ ใต้ต้นสาละคู่ ภายหลังได้สร้างสถูปครอบไว้ดังจะเห็นได้ในปัจจุบัน สถูปมีความสูง 6.10 เมตรเหนือระดับพื้นดิน ด้านบนของสถูปเป็นฉัตร 3 ชั้น
มหาปรินิพพานวิหาร หรือวิหารพุทธไสยาสน์ ตั้งอยู่ด้านหน้าบนฐานเดียวกันกับมหาปรินิพพานสถูป มีบันไดอิฐสูงขึ้นไปบนเนิน ภายในประดิษฐาน “พระพุทธรูปปางปรินิพพาน” อยู่บนพระแท่นทำด้วยหินทรายแดงหรือเรียกว่า จุณศิลา มีอายุมากกว่า 1,500 ปี ที่พระแท่นมีรูปสลักของสุภัททปริพาชกกำลังเข้าไปขอบวช และมีรูปสลักพระอนุรุทธะและพระอานนท์อยู่ด้วย พระพุทธรูปองค์นี้เป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธองค์ที่กำลังเสด็จดับขันธปรินิพพาน ประทับนอนบรรทมตะแคงขวา โดยหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก และมีซากศาสนสถานโบราณโดยรอบมากมาย ในจารึกระบุผู้จัดสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ คือ หริพละสวามี นายช่างผู้แกะสลักชื่อ ธรรมทินนา เป็นชาวเมืองมถุรา ในปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ถือได้ว่าเป็นจุดหมายสำคัญที่ชาวพุทธจะมาสักการะ เพราะเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะอันพิเศษคือเหมือนคนนอนหลับธรรมดา แสดงให้เห็นว่าพระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานจากไปอย่างผู้หมดกังวลในโลกทั้งปวง
พระพุทธรูปปางมหาปรินิพพาน ในพระวิหารแห่งมหาปรินิพพานสถูป
มกุฏพันธนเจดีย์ อยู่ห่างจากปรินิพพานสถูปไปทางทิศตะวันออก 1 กิโลเมตร ชาวท้องถิ่นเรียก รัมภาร์สถูป เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ มีสภาพเป็นเนินดินก่อด้วยอิฐขนาดใหญ่ ปัจจุบันรัฐบาลอินเดียได้เข้ามาบูรณะซ่อมแซมไว้อย่างดี
มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า
พุทธสถานโบราณลุมพินี ปัจจุบันได้รับการบูรณะซ่อมแซมเป็นอย่างดีจากรัฐบาลอินเดีย โดยรอบมีสภาพเป็นสวนป่าสาละร่มรื่นเหมือนครั้งพุทธกาล ชวนให้เจริญศรัทธาแก่ผู้มาสักการะตลอดมาจนปัจจุบัน
วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 มีเนื้อที่ราว 14 ไร่ (6 เอเคอร์) ตั้งอยู่บริเวณกุสินารา อยู่ห่างจากสาลวโนทยาน สถานที่ดับขันธปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประมาณ 500 เมตร ปัจจุบันมีพระราชรัตนรังษีเป็นประธานสงฆ์
บทความที่เกี่ยวข้อง
- รวบรวมข้อมูลสำหรับผุ้ที่จะไปแสวงบุญ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ประเทศอินเดีย,เนปาล
- สังเวชนียสถานแห่งที่ 1 ลุมพินี,เนปาล (Lumbini, Nepal)
- สังเวชนียสถานแห่งที่ 2 พุทธคยา,อินเดีย (BodhGaya, India)
- สังเวชนียสถานแห่งที่ 3 สารนาถ,อินเดีย (Sarnath, India)
Tips
- 50 ข้อควรรู้ก่อนไปเยือนอินเดียครั้งแรก
- ใครที่วางแผนไปเดินทางไปอินเดีย ขอแนะนำให้เช่า Pocket Wifi สำหรับใช้ที่อินเดียโดยเฉพาะเพราะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดและแชร์ได้หลายเครื่อง