แถลงการณ์ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564 ได้มีมติเห็นชอบปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทยสำหรับผู้เดินทางทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยลดวันกักตัวจาก 14 วัน เป็น 7 วันหรือ 10 วัน ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564
For English Click: Thailand Reduced Quarantine to 7-10 days from October 2021
เงื่อนไขในการกักตัว 7 วัน, 10 วันหรือ 14 วัน?
การกักตัวในระยะเวลา 14 วันเกิดขึ้นหลังจากที่องค์การอนามัยโลกและผู้เชี่ยวชาญต่างๆประเมินระยะฟักตัวของโควิด -19 นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมตั้งแต่เริ่มการระบาดของโควิด -19 นักเดินทางทุกคนที่มาประเทศไทยจะต้องกักตัว 14 วัน (จริงๆแล้วคือ 15 คืน / 16 วัน) ในสถานที่/โรงแรมที่รัฐบาลอนุมัติเท่านั้น
การลดวันกักตัว เหลือเพียง 10 วันหรือ 7 วัน เป็นมาตรการที่ช่วยให้ผู้ที่เดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้ง่ายขึ้น ซึ่งมาตรการนี้เกิดขึ้นหลังจากการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา-19 นักท่องเที่ยวไม่ต้องกักตัว 2 สัปดาห์ในห้องพักของโรงแรมอีกต่อไป อย่างไรก็ตามการลดวันกักตัวนี้เป็นการลดวันกักตัวแบบมีเงื่อนไข โดยผู้เดินทางต้องฉีดวัคซีนครบโดส และต้องได้รับใบรับรองการฉีดวัคซีนหรือ "Vaccine Certificate" จากประเทศต้นทาง
การลดระยะเวลาการกักกันที่รัฐบาลประกาศ แบ่งเป็น 3 ประเภท มีรายละเอียดดังต่อไปนี้:
1. กักตัว 7 วัน
วันที่มีผล: 1 ตุลาคม 2564
✔️ ใบรับรองการฉีดวัคซีนครบ (Vaccine Certificate) ครบตามเกณฑ์อย่างน้อย 14 วัน
✔️ ต้องมีการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้งโดยครั้งแรกวันแรกที่มาถึง (0-1)และครั้งที่สอง (6-7)
✔️สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยทุกช่องทาง (กรณีทางน้ำต้องมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนทุกคน)
2. กักตัว 10 วัน
วันที่มีผล: 1 ตุลาคม 2564
❌ ไม่มีใบรับรองการฉีดวัคซีน (Vaccine Certificate)
✔️ต้องมีการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้งโดยครั้งแรกวันแรกที่มาถึง (0-1)และครั้งที่สอง (8-9)
✔️เดินทางเข้าประเทศทางอากาศ หรือทางน้ำ (กรณีคนใดคนหนึ่งบนเรือไม่มีเอกสารับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19)
3. กักตัว 14 วัน
วันที่มีผล: 1 ตุลาคม 2564
❌ ไม่มีใบรับรองการฉีดวัคซีน (Vaccine Certificate)
✔️ ต้องตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้งโดยครั้งแรกวันแรกที่มาถึง (0-1) และครั้งที่สอง (12-13)
✔️เดินทางเข้าประเทศทางบก (เนื่องจากไม่มีการตรวจหาเชื้อมาก่อนและมีอัตราการติดเชื้อมากกว่าทางอากาศ)
ทั้งนี้ มาตรการลดวันกักตัวยังใช้มาตรการเดียวกันในทุกประเทศ เว้นแต่จะมีเหตุการณ์อื่นๆเพิ่มเติม จะใช้อำนาจเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเพิ่มเติมขึ้นได้
การตรวจหาเชื้อโควิด-19
ในระหว่างการกักตัว ผู้เดินทางจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง
- วันแรกที่มาถึงประเทศไทย (ในวันที่ 0-1) และ
- วันที่ออกจากสถานที่กักกัน
- วันที่ 6-7 (สำหรับกักตัว 7 วัน)
- วันที่ 8-9 (สำหรับกักตัว 10 วัน)
- วันที่ 12-13 (สำหรับกักตัว 14 วัน)
การปรับมาตรการสําหรับการทํากิจกรรมในสถานที่กักกัน
นอกจากนี้ยังมีการปรับมาตรการสำหรับการทำกิจกรรมในสถานที่กักกันตามเงื่อนไขที่ สธ. กําหนด ได้แก่
การปรับมาตรการสําหรับการทํากิจกรรมในสถานที่กักตัวทางเลือก (AQ)
- การออกกําลังกายกลางแจ้ง
- การว่ายน้ํา
- การสั่งซื้อสินค้า/อาหารจากภายนอก
- การปั่นจักรยาน (กรณีมีสถานที่ที่มีลักษณะปิด และควบคุมได้)
- การสั่งซื้อสินค้า/อาหารจากภายนอก
- การประชุมสําหรับนักธุรกิจเข้ามาระยะสั้น
การปรับมาตรการสําหรับการทํากิจกรรมในสถานที่กักกันโรคแห่งรัฐ (SQ) หรือ สถานกักกันโรคของหน่วยงาน (OQ)
- การออกกําลังกายกลางแจ้ง
- การสั่งซื้อสินค้า/อาหารจากภายนอก
ทั้งนี้ การปรับมาตรการให้เป็นไปตามระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยทั่วราชอาณาจักรของที่ตั้งสถานที่กักกันซึ่งทางราชการกําหนด ต้องดําเนินการตามแนวทางที่กําหนด เน้น DMH และมีการลงจองนัดหมายกิจกรรมล่วงหน้า
เงื่อนไขกรณีมีการทํากิจกรรมตามที่กําหนด
- ผู้เข้ากักตัวเซ็นยินยอมรับความเสี่ยงกรณีมีการติดเชื้อ
- โรงแรม และโรงพยาบาล คู่ปฏิบัติการ (เอกชน) ร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดําเนินการ เช่น การสอบสวนโรค การกักกันโรค การตรวจหาเชื้อ การทําความสะอาด เป็นต้น
แพ็คเกจโรงแรมกักตัว AQ
ผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยต้องพักที่โรงแรมกักกันโดยออกค่าใช้จ่ายเอง แพ็คเกจกักตัวจะรวมค่าที่พัก, อาหาร 3 มื้อ, การเดินทางไปยังโรงแรมจากสนามบิน, พยาบาลตลอด 24 ชั่วโมงที่โรงแรม, และการทดสอบ Covid-19 ที่ดำเนินการโดยโรงพยาบาลพันธมิตรในระหว่างการกักกัน
ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการกักกันโดยละเอียดและรายชื่อโรงแรมกักกันที่ได้รับอนุมัติในประเทศไทย สามารถค้นหาเพิ่มเติมได้ที่นี่
โรงแรมกักตัวทางเลือกพร้อมแพ็คเกจตามจำนวนวันกักตัว
เอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็น
ไม่ว่าคุณจะกักตัวกี่วันก็ตาม คุณจะต้องแสดงเอกสารต่อไปนี้ต่อเจ้าหน้าที่เช็คอินของสายการบินและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย
- หนังสือเดินทาง (Passport)
- ใบยืนยันการจองโรงแรมกักตัว - ASQ หรือ ALQ
- Certificate of Entry (COE) ที่ออกโดยสถานทูตไทย
- แบบฟอร์มต.8 (T8 Form Health Questionnaire)
- เอกสารใบรับรองแพทย์ (Fit-to-Fly health certificate) - สถานเอกอัครราชทูตได้มีประกาศให้ยกเลิก
สำหรับชาวต่างชาติจะมีเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
- ใบรับรองสุขภาพปลอดโควิด -19 (COVID-19-Free Health Certificate) โดยผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการระบุว่าตรวจไม่พบ COVID-19 (การทดสอบ COVID ต้องใช้วิธี RT-PCR) ออกให้ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
- กรมธรรม์ประกันสุขภาพวงเงินขั้นต่ำ 100,000 USD สำหรับค่ารักษาพยาบาลของ COVID-19 ระหว่างพำนักในประเทศไทย ซึ่งต้องซื้อประกันสุขภาพที่ตรงตามเกณฑ์การเข้ามาประเทศไทย
ข้อมูลอัปเดตเพิ่มเติมสำหรับการเดินทางมายังประเทศไทย
เนื่องจากข้อกำหนดเกี่ยวกับการเดินทางมาประเทศไทยอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางและข้อมูลผู้โดยสาร เราขอแนะนำให้ติดต่อสถานทูตไทยในพื้นที่ของคุณก่อนที่จะวางแผนการเดินทางหรือจองตั๋วเครื่องบินหรือจองห้องพัก
Join Our FACEBOOK Page!
อัพเดทข้อมูลการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ พร้อมข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการเปิดประเทศในช่วงของการระบาดโควิด-19