ประเทศไทยเริ่มกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป ได้มีการปรับมาตรการและเงื่อนไขการเข้าประเทศไทยของทั้งคนไทยและคนต่างชาติ เพื่อรับผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนโดยไม่ต้องผ่านการกักตัวภายใต้โครงการ Test & Go (T&G) บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับโปรแกรม Test & Go เพื่อเดินทางเข้าประเทศไทย
For English Click: Thailand Test & Go
UPDATE! ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป รัฐบาลไทยยกเลิกระบบ Test & Go สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทย
รูปแบบการเดินทางเข้าประเทศไทย
ตามนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล ประเทศไทยได้แบ่งรูปแบบการเดินทางเข้าประเทศไทยสำหรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ดังนี้
TEST & GO (Exemption from Quarantine) - เดินทางเข้าไทยโดยยกเว้นการกักตัว
Living in The Blue Zone Sandbox - เดินทางเข้าพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว / พื้นที่ Sandbox ก่อนเดินทางไปยังพื้นที่อื่น
Happy Quarantine - กักตัวในโรงแรมกักตัวทางเลือก AQ
Test & Go (T&G) คืออะไร?
Test & Go (T&G) หรือ Exemption from Quarantine (ยกเว้นการกักตัว) เป็นหนึ่งในโครงการใหม่เพื่อต้อนรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทย โปรแกรม Test & Go เริ่ม 1 พฤศจิกายน 2564 โดยกำหนดให้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 จากประเทศทุกประเทศทั่วโลกสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้รับการยกเว้นจากการกักตัว
เงื่อนไข/กฎเกณฑ์ของ Test & Go
แม้ว่าจะไม่มีข้อกำหนดในการกักตัว แต่นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางมายังประเทศไทย ยังคงต้องลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass เพื่อขออนุมัติเข้าประเทศก่อนเดินทางและจะต้องทำการทดสอบ COVID-19 เมื่อมาถึงประเทศไทย ผู้เดินทางจำเป็นต้องเข้าพักในโรงแรมที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลเพื่อรอผลการทดสอบโควิด-19 หากผลการทดสอบเป็นลบ ผู้เดินทางสามารถไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆในประเทศไทยได้
รายละเอียดสำหรับการเดินทางเข้าไทยภายใต้รูปแบบ Test & Go ดังนี้
ประเทศที่สามารถเข้าร่วม Test & Go
ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2565 ผู้เดินทางข้าประเทศไทยแบบ Test & Go สามารถเดินทางได้จากทุกประเทศทั่วโลก
Test & Go ต้อนรับนักเดินทางที่บินมายังประเทศไทยจากประเทศเสี่ยงต่ำต่อไวรัส SAR-CoV-2 ดังนี้ โครงการนี้อนุญาตเฉพาะผู้เดินทางจากบางประเทศหรือพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่สามารถเข้ามายังประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว โดยสามารถคลิกดูรายชื่อทั้งหมดได้ที่นี่: รายชื่อประเทศความเสี่ยงต่ำ
ผู้เดินทางจะต้องพำนักอยู่ในประเทศที่ได้รับอนุญาตอย่างน้อย 21 วันติดต่อกันก่อนเดินทางมาประเทศไทย
กรณีผู้ที่พำนักอยู่ในไทย (ทั้งคนไทยหรือคนต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในประเทศไทยที่เดินทางมาเป็นการชั่วคราว) ซึ่งได้เดินทางจากไทยเข้าประเทศเหล่านี้ สามารถใช้สิทธิ์ไม่กักตัวได้ แม้จะอยู่ในประเทศเหล่านี้ไม่ถึง 21 วัน แต่จะต้องไม่ได้แวะหรือไปพำนักที่ประเทศอื่นนอกเหนือประเทศ/ดินแดนดังกล่าวก่อนเดินทางกลับไทย
การกักตัว
ไม่จำเป็นต้องกักตัว อย่างไรก็ตามผู้เดินทางต้องรอผลตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR ที่ห้องพักของโรงแรมจนกว่าจะได้รับแจ้งผลตรวจเป็นลบ หากผลตรวจเป็นลบจึงจะเดินทางออกจากโรงแรมได้
สถานะการฉีดวัคซีน
สำหรับการเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่มีการกักตัว ผู้เดินทางต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนอย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทาง ผู้เดินทางต้องแสดงใบรับรองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเป็นทางการ ซึ่งต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือทางการไทย โดยหลักฐานการฉีดวัคซีนจำเป็นต้องใช้เมื่อลงทะเบียน Thailand Pass
สำหรับผู้ที่เดินทางก่อน 15 ธันวาคม 2564
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่เดินทางกับพ่อแม่หรือผู้ปกครองจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องฉีดวัคซีน โดยสามารถเข้าไทยภายใต้โครงการ "Test & Go" ได้ตามเงื่อนไขเดียวกันกับผู้ปกครอง
หากมีประวัติได้รับเชื้อโควิด-19 จะต้องได้รับวัคซีน 1 เข็ม ภายในระยะเวลา 3 เดือนหลังจากหายป่วย โดยจะต้องแนบเอกสารรับรอง / ใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันการหายป่วยจากโรคโควิด-19 มาพร้อมกับใบรับรองการฉีดวัคซีน 1 เข็มดังกล่าว ทั้งนี้ หากมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ก่อนได้รับเชื้อโควิด-19 จะถือว่าเป็นผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์
สำหรับผู้ที่เดินทาง 16 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
ข้อกำหนดสำหรับผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปีที่ประสงค์เข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว
- สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีไม่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนและไม่ต้องแสดงผลการตรวจ RT-PCR แต่ต้องเดินทางพร้อมกับผู้ปกครองและเมื่อเดินทางถึงไทยแล้วจะสามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยใช้น้ำลาย (saliva testing)
- สำหรับเด็กอายุ 6 – 11 ปี ไม่จำเป็นต้องได้รับวัคซีน แต่ต้องเดินทางพร้อมกับผู้ปกครอง และต้องแสดงผลการตรวจ RT-PCR ที่ออกภายใน 72 ชม. ก่อนเวลาเดินทาง
- สำหรับเด็กอายุ 12 – 17 ปี ต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มหรือหากไม่เคยได้รับวัคซีน จะต้องเดินทางพร้อมกับผู้ปกครอง โดยผู้เดินทางอายุ 12-17 ปี ทุกคนต้องแสดงผลการตรวจ RT-PCR ที่ออกภายใน 72 ชม. ก่อนเวลาเดินทาง
ข้อกำหนดสำหรับผู้เคยติดเชื้อโควิด-19 ที่ประสงค์เข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว
- หากเคยติดเชื้อโควิด-19 ภายใน 3 เดือนก่อนเดินทางเข้าไทย สามารถใช้เอกสาร COVID-19 recovery form หรือใบรับรองแพทย์ที่รับรองว่าหายจากโควิด-19 หรือไม่มีอาการแล้วโดยจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 (RT-PCR) ก่อนเข้าประเทศไทย
- หากเคยติดเชื้อโควิด-19 เกิน 3 เดือน จะต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มจะดำเนินการในช่วงใดก็ได้ภายหลังการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ ผู้เดินทางที่เคยได้รับวัคซีนครบก่อนติดเชื้อโควิด-19 จะถือว่า เป็นผู้ได้รับวัคซีนครบตามข้อกำหนด
ดูเพิ่มเติม: มาตรการเดินทางเข้าไทยสำหรับเด็กและผู้ติดเชื้อโควิด
โรงแรม Test & Go 🔥
ระยะเวลาในการเข้าพักที่โรงแรม Test & Go
ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงประเทศไทยจะต้องเข้าพักที่โรงแรม SHA Extra Plus (SHA++) หรือโรงแรมกักตัว Alternative Quarantine (AQ) เป็นเวลา 2 คืน สำหรับคืนวันที่ 1 และวันที่ 5 เพื่อรอผลตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR และต้องมีผลตรวจเป็นลบก่อน
ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2565 ประเทศไทยปรับมาตรการเดินทางเข้าไทยแบบ Test & Go โดยยกเลิกการจองที่พักและตรวจ RT-PCR ครั้งที่สอง ในวันที่ 5 ของการเดินทางเข้าประเทศ ดังนั้น ผู้เดินทางจะต้องแสดงหลักฐานการชําระค่าโรงแรม SHA Extra Plus เป็นเวลา 1 คืน ในวันแรกที่เดินทางมายังประเทศไทย และค่าตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT - PCR จํานวน 1 ครั้ง โดยผู้เดินทางสามารถลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: มาตรการเดินทางเข้าไทย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565
รายชื่อโรงแรมที่เสนอแพ็คเกจ Test & Go
สามารถค้นหาโรงแรม โรงแรม SHA Extra+ หรือ AQ ที่เสนอแพ็คเกจ Test & Go ซึ่งสามารถจองเพื่อใช้ในการลงทะเบียน Thailand Pass ได้ด้านล่างนี้
โรงแรมที่เสนอแพ็คเกจ Test & Go ในจังหวัดต่างๆ
- โรงแรม Test & Go ในกรุงเทพมหานคร
- โรงแรม Test & Go ในพัทยา / ชลบุรี
- โรงแรม Test & Go ในหัวหิน
- โรงแรม Test & Go ในเชียงใหม่
- โรงแรม Test & Go ในเชียงราย
- โรงแรม Test & Go ในอุดรธานี
- โรงแรม Test & Go ในภูเก็ต
- โรงแรม Test & Go ในเกาะสมุย
- โรงแรม Test & Go ในกระบี่
- โรงแรม Test & Go ในหาดใหญ่ / สงขลา
- โรงแรม Test & Go ในพิษณุโลก
- โรงแรม Test & Go ในเกาะช้าง / ตราด
- โรงแรม Test & Go ในอยุธยา
- โรงแรม Test & Go ในกาญจนบุรี
โรงแรมที่เสนอแพ็คเกจ Test & Go แบ่งตามพื้นที่ท่องเที่ยวในกทม.
- โรงแรม Test & Go ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ
- โรงแรม Test & Go ใกล้สนามบินดอนเมือง
- โรงแรม Test & Go ย่านสุขุมวิท
- โรงแรม Test & Go อโศก
- โรงแรม Test & Go ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
- โรงแรม Test & Go ย่านจตุจักร
- โรงแรม Test & Go ย่านประตูน้ำ
- โรงแรม Test & Go ย่านพญาไท
- โรงแรม Test & Go ย่านรัชดาภิเษก
- โรงแรม Test & Go ย่านสีลม
- โรงแรม Test & Go ย่านสาทร
- โรงแรม Test & Go ในย่านอื่นๆของกรุงเทพฯ
ประกันสุขภาพ (ไม่จำเป็นสำหรับคนไทย)
กรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลหรือ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในไทยในวงเงินไม่น้อยกว่า 50,000 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือตามที่ทางราชการกำหนด สำหรับผู้มีสัญชาติไทยไม่จำเป็นต้องมีเอกสารกรมธรรม์ประกันภัย เนื่องจากได้รับรองการรักษาพยาบาลผ่านโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทยแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการข้อมูลเกี่ยวกับประกันสุขภาพสำหรับเดินทางเข้าประเทศในวงเงินคุ้มครอง 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถคลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่นี่: ประกันโควิด COVID-19 สำหรับเดินทางเข้าประเทศไทย
การตรวจโควิด-19
การตรวจโควิด-19 ก่อนออกเดินทาง
ผู้เดินทางต้องมีใบรับรองปลอดโควิด-19 (COVID-19-Free Health Certificate) ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโรคโควิด - 19 โดยวิธี RT-PCR โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง (ยกเลิกตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป)
การตรวจโควิด-19 ในประเทศไทย
ผู้เดินทางตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ตามที่รัฐบาลกำหนด โดยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจเอง ค่าตรวจโควิด-19 จะรวมกับค่าโรงแรมเมื่อจองแพ็คเกจ Test & Go
Thailand Pass
ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ผู้เดินทางเข้าประเทศไทย ต้องลงทะเบียน Thailand Pass ควรลงทะเบียนและส่งเอกสารล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ก่อนวันเดินทาง โดยผู้ลงทะเบียนที่มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนจากประเทศ / พื้นที่ที่ไทยมีข้อมูล PKI QR Code จะได้รับการพิจารณาการลงทะเบียนโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนท่านอื่นจะได้รับการพิจารณาภายใน 3 – 7 วัน เมื่ออนุมัติแล้วจะได้รับ “Thailand Pass QR Code” เพื่อใช้ในการเดินทางเข้าประเทศไทย
ดูเพิ่มเติม: ขั้นตอนและวิธีลงทะเบียน Thailand Pass
อัพเดทข่าวเกี่ยวกับโครงการ Test & Go
Update วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565
ประเทศไทยได้ปรับมาตรการป้องกันโรคสําหรับผู้เดินทางเข้ามาในตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 5/2565 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 23) ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไข โดยให้มีหลักฐานการชําระค่าที่พักหรือสถานที่กักกันที่ทางราชการกําหนดในวันแรก ที่ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร และหลักฐานการชําระค่าตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT - PCR จํานวน 1 ครั้ง รวมถึงค่าชุดตรวจและน้ํายาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS-CoV -2 (เชื้อก่อโรค COMD - 19) แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (Antigen Self - Test Kit หรือ ATK) และให้มีหลักฐานหรือเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เฉพาะในส่วนกรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาล หรือหลักประกันอื่นใดตลอดระยะเวลาที่ผู้เดินทางอยู่ในราชอาณาจักรในวงเงินไม่น้อยกว่า ๒๐,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือตามที่ทางราชการกําหนด เว้นแต่กรณีผู้เดินทางที่มีสัญชาติไทย หรือผู้เดินทางที่ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีสิทธิในการตรวจหรือการรักษาพยาบาลตามที่กฎหมายบัญญัติ ไม่ต้องมีกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว
Update วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ถึงการปรับมาตรการป้องกันโรค-19 สำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำเสนอ ว่า จากเดิมต้องตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง ในวันที่มาถึง และวันที่ 5 มีการปรับเป็นวันแรกที่มาถึงตรวจด้วย RT-PCR ส่วนวันที่ 5 ตรวจด้วย ATK ลดวงเงินประกันภัยคุ้มครองจาก 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นไม่ต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ดูเพิ่มเติม: มาตรการเดินทางเข้าไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565
Update วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565
หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เสนอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนผ่อนคลายมาตรการ Test & Go เพื่อเป็นการจูงใจและดึงดูดนักเดินทางต่างชาติ ซึ่งหากมองโอกาสในการเดินหน้าเศรษฐกิจไทย การปรับปรุงและผ่อนคลายมาตรการ Test & Go จึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการตรวจ RT-PCR Test ของนักเดินทางขาเข้าประเทศ ที่ต้องตรวจถึง 3 ครั้ง ประกอบด้วย ครั้งที่ 1 ก่อนเข้าประเทศ (ภายใน 72 ชั่วโมง) ครั้งที่ 2 วันแรกที่เข้าประเทศ และครั้งที่ 3 ในวันที่ 5 นับจากการเข้าประเทศ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีการตรวจหลายรอบเป็นการสร้างภาระสำหรับนักเดินทาง
Update วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565
กลุ่มสมาคมท่องเที่ยวจำนวน 20 องค์กร เช่น สมาคมโรงแรมไทย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมภาคใต้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพังงา สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดระนอง สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ฯลฯ ได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศโดยเร่งด่วนทันทีใน 4 เรื่องหลัก
1. งดการตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 ในวันที่ 5 เนื่องจากอัตราการติดเชื้อของนักท่องเที่ยวในวันที่ 5 น้อยกว่าการติดเชื้อในท้องถิ่น ณ ปัจจุบัน และเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่นักท่องเที่ยว
2. ปรับลดการกักตัวของผู้ติดเชื้อจากเดิม 10 วันเหลือ 5 วัน
3. ยกเลิกมาตรการกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่หากตรวจหาเชื้อแล้วเป็นลบในวันแรก
4.ปรับลดวงเงินประกันการเดินทางจาก 50,000 เหรียญสหรัฐ เหลือ 25,000 เหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ ยังขอให้พิจารณาประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นในเดือนมีนาคมนี้ ตามแนวทางที่ประเทศต่าง ๆ ในโลกได้เริ่มดำเนินการ และยกเลิกมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าประเทศ ทั้งการขอ Thailand Pass และการตรวจ RT-PCR (ครั้งที่ 1) เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาประเทศไทยได้อย่างสะดวก และเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวให้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิดมากที่สุด
Update วันที่ 27 มกราคม 2565
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศได้ประชาสัมพันธ์เงื่อนไขการเดินทาง Test & Go (สำหรับคนสัญชาติไทย) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2565 ดังนี้
เงื่อนไขผู้เดินทาง Test & Go
1. ประเทศ / พื้นที่ ต้นทาง
- เดินทางได้จากทุกประเทศ / พื้นที่
2. เงื่อนไขการฉีดวัคชีน
- หลักฐานการได้รับวัคซีนที่ประเทศไทยรับรองครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคชีนกำหนด อย่างน้อย 14 วัน ก่อนเดินทาง
- ผู้ติดเชื้อที่รักษาหายแล้ว หลักฐานการได้รับวัคซีน 1 เข็มหลังติดเชื้อ (พร้อมใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าหายแล้ว)
- อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ต้องมีหลักฐานการได้รับวัคซีน (ต้องลงทะเบียนและเดินทางพร้อมกับผู้ปกครอง)
3. บุคคลสัญชาติไทยไม่ต้องซื้อประกันภัย
4. มีหลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรม SHA Extra+ / AQ ในวันที่เดินทางถึง และวันที่ 5
- วันที่เดินทางถึง ต้องมีค่าตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 1 และพาหนะรับส่งจากสนามบิน
- วันที่ 5 ต้องมีค่าตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 (จองโรงแรมต่างกันได้)
เอกสารสำหรับลงทะเบียน Test & Go
1. หนังสือเดินทาง
2. หลักฐานการได้รับวัคซีน (สามารถใช้เอกสาร EU DCC 2/2 เป็นหลักฐานการฉีดวัคซีนทั้งเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2)
3. หลักฐานการจ่ายค่าโรงแรม SHA Extra+ / AQ (ในวันที่เดินทางถึง และวันที่ 5 ค่าตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง และพาหนะรับส่งจากสนามบิน) โดยจองโรงแรมต่างกันได้
* แนบใบรับรองแพทย์ฯ กรณีเป็นผู้ติดเชื้อที่รักษาหายแล้ว ซึ่งได้รับวัคซีน 1 เข็มหลังติดเชื้อ
ขั้นตอนลงทะเบียน Test & Go
1. ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass
ควรลงทะเบียนล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ก่อนวันเดินทางจริง
2. ตรวจหาเชื้อโควิด-19
- มีผลการตรวจเชื้อโดยวิธี RT-PCR ที่เป็นลบในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง หรือในกรณีที่มีผลตรวจเป็นบวก ต้องมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าเป็นผู้เคยติดเชื้อและหายแล้ว (ติดเชื้อมาแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน แต่ไม่เกิน 3 เดือน)
- อายต่ำกว่า 6 ปี ไม่ต้องมีแต่ต้องเดินทางพร้อมผู้ปกครอง
3. ตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 1 เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย (วันที่ 1)
วันที่เดินทางถึง (วันที่ 1)
- เข้ารับการตรวจฯ ครั้งที่ 1 ณ โรงแรมที่พัก หรือ สถานที่อื่นที่กำหนดและรอผลตรวจในห้องพัก
- หากผลเป็นลบ สามารถเดินทางไปทั่วประเทศ และเข้ารับการตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 ในวันที่ 5
4. ตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2
ระหว่างพำนักในประเทศไทย (วันที่ 5)
- วันที่ 5 เข้ารับการตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 ณ โรงแรมที่พัก หรือ สถานที่อื่นที่กำหนด และรอผลตรวจในห้องพัก
- หากผลเป็นลบ สามารถเดินทางไปทั่วประเทศ
Update วันที่ 20 มกราคม 2565
วันที่ 20 มกราคม 2565 จากแถลงสถานการณ์โควิด-19 จากการประชุมของศบค. เห็นชอบการปรับมาตรการสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติมีรายละเอียดดังนี้
- Test & Go จะเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นไปหลังจากที่ระงับไปเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.64
- อนุญาตเข้ามาได้ทุกประเทศ
- มีหลักฐานการจองโรงแรมที่พักในวันแรก และในวันที่ 5 โดยเลือกโรงแรมที่มีโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการ (โรงแรม (SHA++(SHA Extra Plus), AQ, OQ หรือ AHQ)
- มีหลักฐานชําระเงินการตรวจหาเชื้อโควิดแบบ RT-PCR จํานวน 2 ครั้ง
- กรณีพักไม่เกิน 5 วัน ไม่ต้องแสดงหลักฐานการจองและจ่ายค่าที่พักและค่าตรวจครั้งที่ 2 แต่ให้แสดงบัตรโดยสารเครื่องบินขากลับแทน
ดูเพิ่มเติม: Test & Go เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าไทยอีกครั้ง 1 ก.พ. 2565
Update วันที่ 7 มกราคม 2565
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมติให้คงการระงับการลงทะเบียนใหม่บนระบบ Thailand Pass สำหรับผู้เดินทางแบบ Test & Go ต่อไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ผู้ที่ได้รับอนุมัติให้เดินทางเข้าประเทศแบบ Test & Go ก่อนวันที่ 22 ธันวาคม 2564 สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ตามสิทธิและวันเดินทางเดิม