ThaionTours.com

"Hospitel" หรือ หอผู้ป่วยเฉพาะกิจ COVID-19 เป็นที่พักรูปแบบใหม่ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดจำนวนผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19  โดยปรับเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังอาการโควิด-19 เพื่อให้ทางโรงพยาบาลสามารถรองรับผู้ป่วยหนักได้อย่างเต็มที่


-Update-  ช่องทางการติดต่อขอความช่วยเหลือประสานหาเตียงโควิด/รถพยาบาล

เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ที่มีผู้​ติดเชื้อเพื่มขึ้นเป็นจำนวนมากทุกวัน หลายๆคนสอบถามเรื่องที่พักเข้ามา ในบทความนี้ทีมงานได้รวมรวมช่องทางบางส่วนในการติดต่อขอความช่วยเหลือสำหรับประสานจัดหาเตียงและรถพยาบาลให้ผู้ป่วยโควิด-19 ดังนี้

3 สายด่วนที่ระบุว่าจะประสานหาเตียง 

  • สายด่วนกรมการแพทย์ 1668 (ทุกวัน 08:00-22:00 น.)
  • สายด่วนสปสช.1330 (ทุกวัน 24 ชม.)
  • สายด่วน 1669 (ทุกวัน 24 ชม. )

https://kjh-windpark.com/covid/ - เว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลหาเตียงโควิด-19 ในไทย

wehelpmed - อีกหนึ่ง เว็บไซต์ที่รวบรวมช่องทางหาโรงพยาบาลและหาเตียง มีลิงก์ติดต่อหน่วยงานและเพจต่างๆที่ช่วยเหลือ

เพจเราต้องรอด - เพจคุณได๋ รับเรื่องในการ​ช่วยหาเตียงผู้ป่วยโควิด-19 ถ้าได้ผลยืนยันโควิด-19  ลงทะเบียนรอเตียงตามคลิปนี้

หลักฐานที่ต้องเตรียม

  • บัตรประชาชน
  • ใบแสดงผลตรวจโควิดแบบ RT-PCR

เพจ ไม่ได้เป็นหมอแต่เป็นห่วง -อาสาช่วยประสานหาเตียงสีเขียว Hospitel ให้ผู้ป่วยโควิด19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 

เงื่อนไข
  • อายุ 12-50 ปี
  • ไม่มีโรคประจำตัว/ไม่ตั้งครรภ์
  • น้ำหนักไม่เกิน 90 กก
  • เตียงสีเขียวเท่านั้น คือ ไม่มีอาการ/อาการน้อย
  • มีบัตรประชาชน/ผลตรวจ PCR

เพจDrama addict - ถ้าโทร 1330, 1668 และ 1669 แล้วยังหาเตียงไม่ได้ ให้กรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม

เพจหมอแล็บแพนด้า - ตั้งโพสให้สำหรับคนไม่มีเตียงได้ลงข้อมูล

เพจร้องทุกข์ ลงป้ายนี้ (ThaiPBS) - แจ้งประสานขอเตียงให้ผู้ป่วย covid-19 กับ ThaiPBS กรอกข้อมูลตาม link แล้วทีมงานจะติดต่อกลับ

เพจจักรทิพย์คนทำงาน - ช่องทางในการช่วยเหลือและประสานงานให้กับผู้ป่วยติดเชื้อโควิดผ่าน “โครงการโควิด ติดล้อ ถึงเตียง”  แจ้งรายละเอียดเพื่อความรวดเร็วในการประสานงาน 

  • ชื่อและนามสกุล
  • ที่อยู่ปัจจุบัน
  • ผลการตรวจโควิดครั้งล่าสุด
  • ภาพถ่ายบัตรประชาชน
  • สิทธิในการรักษาพยาบาลต่าง ๆ
  • อาการปัจจุบัน

เพจองค์กรทำดี - จัดหารถพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโควิดไปส่งที่โรงพยาบาลโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย (ในกรณีที่คนไข้ได้รับการยืนยันว่าได้เตียงแล้ว)


หอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) คืออะไร?

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้คำว่า "Hospitel" ถูกหยิบยกมาพูดถึงอีกครั้ง  Hospitel มาจากคำว่า Hopital (โรงพยาบาล) + Hotel (โรงแรม)  เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในกรณีที่โรงพยาบาลไม่สามารถรับผู้ป่วยติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีจำนวนมากเข้ารับการรักษาพยาบาลได้  

แนวคิดนี้จะใช้กับสำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือมีอาการของ  Covid-19 ไม่รุนแรง ซึ่งต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลักเป็นเวลาอย่างน้อย 4 -7 วันก่อนจะถูกส่งตัวไปพักยังโรงแรม ซึ่งผู้ป่วยที่เข้าพักใน Hopitel จะต้องมีความสามารถในการดูแลตัวเองและตกลงที่จะอยู่ที่โรงแรมหลังจากวันที่ออกจากโรงพยาบาลไปจนครบกำหนด 10 หรือ 14 วันเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการแพร่เชื้อและเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำคําแนะนําเกี่ยวกับการจัดตั้งหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) ฉบับวันที่ 9 เมษายน 2021 ได้มีการพูดถึง Hospitel ดังนี้

" การพัฒนาหอผู้ป่วยเฉพาะกิจนอกสถานพยาบาล เปรียบเสมือนการขยายพื้นที่การรักษาดูแลผู้ป่วย หรือ เพิ่มจํานวนเตียงรักษาพยาบาลอย่างรวดเร็วในเวลาจํากัด เพื่อให้ผู้ป่วยโรคระบาดที่สามารถดูแลสุขภาพตนเองได้ อาการไม่รุนแรง ไม่จําเป็นต้องอาศัยเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ครุภัณฑ์การแพทย์ที่ซับซ้อน แต่ยังอยู่ในระยะการ แพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่นได้ สามารถรับการดูแลติดตามโดยทีมบุคลากรทางการแพทย์ และป้องกันไม่ให้กลับไปแพร่กระจายเชื้อในชุมชน"

เกณฑ์การเข้าพักรักษาของผู้ป่วยโควิด 19 ที่หอผู้ป่วยเฉพาะกิจ Hospitel

Hospitel จะมีการดูแลภายใต้มาตรฐานและการกำกับของโรงพยาบาล สำหรับกลุ่มผู้ป่วย COVID-19 ที่จะรับการรักษาในหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) จะต้องอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด ดังนี้

1. ผู้ป่วยยืนยันที่ไม่มีอาการ หลังนอนโรงพยาบาล 4-7 วัน เมื่อไม่มีภาวะแทรกซ้อนให้พักต่อที่ Hospitel จนครบ 10 วัน (และครบ14 วันในกรณีสงสัยเชื้อกลายพันธุ์)

2. ผู้ป่วยยืนยันที่มีอาการ ไม่มีภาวะเสี่ยง/ภาวะร่วม หลังนอนโรงพยาบาล 4-7 วันเมื่ออาการดีขึ้นให้พักต่อที่ Hospitel จนครบ 10 วัน (และ14 วันในกรณีสงสัยเชื้อกลายพันธุ์)

3. ผู้ป่วยยืนยันโควิดที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปี ที่ไม่มีอาการ หรือ ไม่มีภาวะเสี่ยง/ภาวะอื่นร่วม เข้าพัก รักษา สังเกตอาการที่ Hospitel จนครบ 10 วัน (และ 14 วันในกรณีสงสัยเชื้อกลายพันธุ์)

4. ทั้งนี้ผู้ป่วยที่ข้ารับการรักษา ในหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ แนะนําให้ เอกซเรย์ปอดทุกราย หากปอดผิดปกติควรอยู่โรงพยาบาล

วัตถุประสงค์ของ Hospitel

1. ช่วยลดความแออัดของเตียงผู้ป่วย COVID-19 ในโรงพยาบาลหลัก

2. ส่งเสริมการดูแล ผู้ป่วย COVID-19 อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นผู้ป่วย กลุ่ม ไม่มีอาการ/อาการน้อย ก่อนจำหน่ายกลับบ้านเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผู้ป่าวย Covid-19 ในสถานการณ์การระบาดที่รุนแรง (การบริหารจัดการเตียง และการใช้ทรัพยากร โดยเฉพาะ PPE อย่างคุ้มค่า)

3. ส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจและสังคมระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและ ประชาสังคม รวมทั้งสร้างความมีส่วนร่วมของชุมชน

รายชื่อ Hospitel

รายชื่อโรงพยาบาลคู่สัญญาที่ให้บริการรักษาพยาบาล ณ หอผู้ป่วยเฉพาะกิจนอกสถานพยาบาล (Hospitel)  มีดังนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 19 พ.ค. 2021)


Note: การเข้าพักที่ Hospitel ผู้ป่วยจะต้องไปติดต่อโรงพยาบาลคู่สัญญา ก่อนเข้ารับการรักษาที่ Hospitel เพื่อประเมินอาการ หากอยู่ในเกณฑ์ โรงพยาบาลต้นทางจะส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษา


ภาคกลาง

1. โรงพยาบาลกรุงเทพ

  • โรงแรมชีวากรุงเทพ
  • โรงแรมเอคิว

2. โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์

  • โรงแรมโอทู ลักซ์ชัวรี่
  • โรงแรมเอชไฟว์ลักซูรี่

3. โรงพยาบาลธนบุรี 1

  • โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท

4. โรงพยาบาลในเครือเกษมราษฎร์

  • โรงแรม Court wing
  • โรงแรม Justice
  • โรงแรม ริชมอนด์
  • โรงแรมคิงส์ตั้นสวีทส์
  • โรงแรมโซรีเทร์ สุขุมวิท
  • โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ มาบุญครอง
  • โรงแรมทูทรี

5. โรงพยาบาลบางปะกอก 9

  • โรงแรมเดอะกรีนวิว

6. โรงพยาบาลบางปะกอก 2 รังสิต

  • โรงแรมธารา พาร์ค รีโซเทล
  • โรงแรมธารา เรสซิเดนซ์

7. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

  • โรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์

8. โรงพยาบาลปิยะเวท

  • โรงแรมรอยัล รัตนโกสินทร์
  • โรงแรมอินทรารีเจ้นท์
  • โรงแรมเดอะบาซาร์

9. โรงพยาบาลพญาไท 1

  • โรงแรมปิคนิค รางน้ำ

10. โรงพยาบาลเมดพาร์ค

  • โรงแรมแบงค็อก มิดทาวน์โฮเต็ล กรุงเทพ
  • โรงแรมเวิร์ฟ โฮเต็ล

11. โรงพยาบาลเลิดสิน

  • โรงแรมเกรซ
    โรงแรมนารายณ์

12. โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ หนองแขม

  • โรงแรมเดอะแพลทตินั่ม สวีท

13. โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ อ้อมน้อย

  • โรงแรม The Cotai Luxury Design Hotel

14. โรงพยาบาลวิภาราม

  • โรงแรมเดอะภัทรา พระรามเก้า
  • โรมแรมโซบูทีค

15. โรงพยาบาลวิภาราม ชัยปราการ

  • โรงแรมโอโซน โฮเต็ล แอท สามย่าน

16. โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล

  • โรงแรม บันดารา

17. โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์

  • โรงแรมไทซัน

18. โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท

  • โรงแรมโนโวเทลกรุงเทพ ฟีนิกซ์ เพลินจิต

19. โรงพยาบาลสินแพทย์

  • โรงแรมสินสิริ นวมินทร์
  • โรงแรมสินสิริ ลาดพร้าว

20. โรงพยาบาลสุขุมวิท

  • โรงแรมมาเลเซีย
  • โรงแรมฟอร์รั่ม พาร์ค

21. โรงพยาบาลเสรีรักษ์

  • โรงแรมสินสิริ รีสอร์ท

22. โรงพยาบาลนวมินทร์ 9

  • โรงแรมเดอะคาแนล

23. โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต

  • โรงแรม เดอะเลชเชอร์ เรสซิเดนซ์

24. โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา

  • โรงแรมสินสิริ นวมินทร์ 96

25. โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์

  • โรงแรมเมเปิ้ล

26. โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

  • โรงแรมเลอแกรนด์ ซิตี้ ประตูน้ำ
  • โรงแรมเกต 43 แอร์พอร์ต

27. โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง

  • โรงแรมไอบิส กรุงเทพ อิมแพ็ค

28. โรงพยาบาลวิชัยเวช สมุทรสาคร

  • โรมแรมรอยัลคิงส์ สวีท

29. โรงพยาบาลวิภาวดี

  • โรงแรม ปริ๊นซ์ตัน กรุงเทพ

30. โรงพยาบาลรามคำแหง

  • โรงแรม เมโทร์พอยด์

31. โรงพยาบาลบีเอ็นเอช

  • โรงแรมโนโวเทล ไอบิส

32. โรงพยาบาลลาดพร้าว

  • โรงแรมอัญชาลีน่า

33. โรงพยาบาลพระราม 9

  • โรงแรมอัลมาส กรุงเทพ

34. โรงพยาบาลบีแคร์

  • โรงแรมโกลด์ ออร์คิด

35. โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ

  • โรงแรมคูณ

36. โรงพยาบาลศิครินทร์

  • โรงแรมทวิน

37. โรงพยาบาลบางโพ

  • โรงแรมสเตย์

ภาคเหนือ

1. โรงพยาบาลเทพปัญญา

  • โรงแรมอโมร่าท่าแพ

ภาคตะวันออก

1. โรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล

  • โรงแรมทรอปิคาน่า

2. โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา

  • โรงแรม3เชดพูลวิลลา

3. โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา

  • โรงแรมอาเดนโฮเทลแอนด์รสซิเด้น

หมายเหตุ: ข้อมูลและรายชื่อ  Hospitel อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์และเงื่อนไขของโรงพยาบาลหรือประกาศเพิ่มเติมจากทางภาครัฐ


แพ็คเกจกักตัว Local Health Watch สำหรับผู้ที่รอผลโควิด-19/มีความเสี่ยง

Update 28 มิ.ย 2564: โรงแรมแจ้งหยุดให้บริการกักตัวสำหรับผู้ที่รอผลโควิด-19/มีความเสี่ยง

สำหรับผู้ที่กำลังรอผลตรวจโควิดหรือผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อและไม่สามารถกักตัวที่บ้าน สามารถกักตัวที่โรงแรมเมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานกักตัวทางเลือกระดับ 5 ดาว ยอดนิยมสำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติ โรงแรมได้เสนอแพคเกจห้องพักกักตัวรายวัน Local Health Watch  ภายในห้องพักประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน อาหาร 3 มื้อ/วัน มีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลกรุงเทพคอยดูแลตลอด 24 ชม.

ราคากักตัว (ต่อวัน):

  • Deluxe Room (42 ตร.ม.) 4,200 บาทต่อคน 
  • Executive Suite (74 ตร.ม.) 4,700 บาทต่อคน 
  • Wellness Suite (74 ตร.ม.) 5,400 บาทต่อคน  
  • Wellness Sleep Suite (74 ตร.ม. ) 5,900 บาทต่อคน  
  • Presidential Suite และ Royal Suite (164 ตร.ม. ) 14,200 บาทต่อคน 
  • ผู้เข้าพักเพิ่มเติมผู้ใหญ่ 1,800 - 3,600  บาทขึ้นอยู่กับห้องพักที่เลือก, เด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี 1,600  บาทต่อคน

** หากผู้เข้าพักมีผลการทดสอบโควิดเป็นบวกอยู่แล้วไม่สามารถเข้าพักในแพ็กเกจนี้ได้**

ข้อมูลเพิ่มเติม ➜ แพ็คเกจกักตัวคนไทยในประเทศ Local Health Watch 


หลักเกณฑ์เปลี่ยนโรงแรมเป็นหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (ตามแนวทางของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ)

เกณฑ์สำหรับโรงแรมที่จะเปลี่ยนเป็นหอผู้ป่วยเฉพาะกิจครอบคลุม 5 ด้าน ได้แก่

หมวด 1 โครงสร้างอาคาร และวิศวกรรมปลอดภัยพร้อมเครื่องปรับอากาศแยกส่วน

หมวด 2 บุคลากรทางการแพทย์ และ เจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีเกี่ยวกับมาตรการด้านสุขภาพ

หมวด 3 ติดตั้งวัสดุ อุปกรณ์สํานักงาน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น

หมวด 4 ความพร้อมด้านเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล

หมวด 5 มีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อชุมชนและระบบการจัดการของเสีย

การจัดตั้งระบบการดูแลรักษา พยาบาล (ตามแนวทางของกรมการแพทย์)

1. Extended ward

2. 2 P Safety & Infection control concepts

3. Telemedical & nursing care

4. Comprehensive care

5. Multidisciplinary team รวมทีมด้านสุขภาพจิต

6. Emergency care

7. Digital IT support

เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ เช่น

เครื่องวัดความดันโลหิต (ผู้ป่วย /เจ้าหน้าที่)

เครื่องวัดอุณหภูมิ

เครื่องวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในกระแสเลือด (Pulse Oximeter)

อุปกรณ์ช่วยฟื้นคืนชีพ

รถพยาบาล กรณีส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน

รถเอกซเรย์เคลื่อนที่ (mobile X-ray unit/ portable Chest) (ตามความจําเป็นและเหมาะสม) อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ได้แก่ ชุด PPE ตามความเสี่ยง ได้แก่ level C, D (ถุงมือ หน้ากาก อนามัย (N95, surgical mask), หมวกคลุมผม, เสื้อกาวน์, face shield, ถุงหุ้มขา (leg Cover), ชุดเปลี่ยนเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง , Alcohol ล้างมือ / alcohol gel

อุปกรณ์ความปลอดภัย ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) (ควรมี) 

 

Thaiontours

คนไทยไปเที่ยวทั่วโลก!

เว็บไซต์ท่องเที่ยวไทยออนทัวร์ (thaiontours.com) เป็นบล็อกการท่องเที่ยวทั่วโลก โดยจะเน้นการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ความตั้งใจหลักของเราคือการแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางและให้ข้อมูลเชิงลึกจากประสบการณ์การเดินทางทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงแนะนำโรงแรมและที่พัก พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมต่างๆ

ติดต่อเรา

 

จองตั๋วต่างๆ

โรงแรม: Booking.comAgodaAirbnb
รถโดยสาร: 12go.asia
เครื่องบิน: Trip.comKiwi.com
ทัวร์และกิจกรรม: KlookGetYourGuide

บริการของเรา